การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

0

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research& Development ) มีวัตถุประสงค์  ดังนี้  1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อเสริมสร้างความ สามารถในการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3  และ 4)  เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3  แหล่งข้อมูล/กลุ่มเป้าหมายตามวัตถุประสงค์การวิจัยขั้นตอนที่ 1  ได้แก่   หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สาระที่  1 การอ่าน สาระการเรียนรู้เรื่องการอ่านจับใจความ ทฤษฎีการเรียนรู้และการเชื่อมโยงความคิดของแฮร์บาร์ต ทฤษฎีการเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ ทฤษฎีการเรียนรู้ด้วยกระบวนการค้นพบของบรุนเนอร์  ทฤษฎีการเรียนรู้อย่างมีความหมายของอซูเบล และทฤษฎีการเรียนรู้แบบกลุ่มผสมผสานของกาเย่ เทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือได้แก่ เทคนิคกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) เทคนิคแบบร่วมมือกันแบบผสมผสาน (CIRC) และเทคนิคแบบร่วมมือกันแบบจิ๊กซอร์ II ทฤษฎีการอ่านจับใจความ ได้แก่ ทฤษฎีเน้นความสัมพันธ์ของข้อโครงสร้างประสบการณ์เดิม และทฤษฎีการเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนและความสามารถในการอ่านจับใจความการศึกษาความคิดเห็นในการจัดการเรียนการสอนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 30 คน ประเด็นการสัมภาษณ์อย่างไม่เป็นทางการของครูหัวหน้างานวิชาการโรงเรียนและครูหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จำนวน 2  คน และประเด็นการสนทนาอย่างไม่เป็นทางการของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จำนวน 3 คน แหล่งข้อมูล/กลุ่มเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ของการวิจัยขั้นตอนที่ 2 ได้แก่ การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานในขั้นตอนที่ 1  ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ในการตรวจสอบความเหมาะสม/สอดคล้อง  และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561จำนวน 30 คน ที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง แหล่งข้อมูล/กลุ่มตัวอย่างตามวัตถุประสงค์ของการวิจัยขั้นตอนที่ 3 และ 4 ได้แก่  นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล ๔ (หนองแคอนุสรณ์)  สังกัดกองการศึกษาเทศบาลตำบลหนองแค  อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี จำนวน 31 คน  ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random  Sampling )  เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) คู่มือการใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามการเรียนรู้แบบร่วมมือ 2) แผนการจัดการเรียนรู้       3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านจับใจความ 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทย และ5) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามการเรียนรู้แบบร่วมมือการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปและการคิดวิเคราะห์เนื้อหา(content analysis) สถิติที่ใช้ได้แก่การหาค่าเฉลี่ย  ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าที (t-test dependent )

ใส่ความเห็น